บริษัท เกษร วิลเลจ เมมเบอร์ เซอร์วิสเซส จำกัด (“บริษัท” “เรา” หรือ “ของเรา”) ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและความโปร่งใส และทราบว่าท่านให้ความสำคัญกับรายละเอียดเกี่ยวกับการที่เราเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
ในระหว่างการดำเนินธุรกิจของเรา เราไม่มีเจตนาเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลใดของท่าน เนื่องจากเราเป็นบริษัทโฮลดิ้งซึ่งประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่นเป็นหลัก และเราไม่ประกอบธุรกิจใด ๆ ที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ จากลูกค้าโดยตรง อย่างไรก็ตาม เราอาจจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภทไปต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์บางประการที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจของเราและบริษัทอื่นที่อยู่ในเครือของเกษร กรุ๊ป ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มาติดต่อ ผู้ร้องเรียน ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน ประชาชนทั่วไป นักข่าว บุคคลที่เกี่ยวข้องกับโครงการกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) กรรมการบริษัท ผู้ถือหุ้น และผู้ถือหลักทรัพย์ หรือลูกค้าของบริษัทที่เป็นบริษัทในเครือของเกษร กรุ๊ป (“ท่าน” หรือ “ของท่าน”) ดังนั้น เราจึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบายความเป็นส่วนตัว”) เพื่ออธิบายว่าเราเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศอย่างไร
นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้ข้อมูลที่สำคัญต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง:
ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้:
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลธรรมดา ซึ่งสามารถระบุตัวตนของบุคคลธรรมดานั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของบุคคลธรรมดาที่ถึงแก่กรรม และ
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาที่ข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภทระบุถึง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกใดแก่เรา (เช่น ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์สำหรับการติดต่อกรณีฉุกเฉิน และรายได้ของสมาชิกในครอบครัว) โปรดแสดงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้บุคคลนั้นรับทราบ และ/หรือขอความยินยอม หากจำเป็น
เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถเฉพาะกรณีที่บิดา/มารดา หรือผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลได้ให้ความยินยอมเมื่อจำเป็นต้องขอความยินยอม เราไม่มีเจตนาเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยาว์โดยปราศจากความยินยอมของผู้ใช้อำนาจปกครองเมื่อจำเป็นต้องขอความยินยอม หรือจากคนเสมือนไร้ความสามารถหรือคนไร้ความสามารถโดยปราศจากความยินยอมของผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลเมื่อจำเป็นต้องขอความยินยอม ในกรณีที่เราพบว่าเราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และ/หรือ คนไร้ความสามารถ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลเมื่อจำเป็นต้องขอความยินยอม เราจะทำการลบข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็ว หรือจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นก็ต่อเมื่อเราสามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นนอกจากความยินยอมได้
3.1. วัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอม:
ในปัจจุบัน เราไม่ได้เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ที่จำเป็นต้องอาศัยความยินยอมของท่าน
3.2. วัตถุประสงค์ที่เราอาจอาศัยฐานทางกฎหมายอื่น
เราอาจอาศัย (1) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา เพื่อการเริ่มเข้าทำสัญญาหรือการปฏิบัติตามสัญญากับท่าน (2) ฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อการปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายของเรา (3) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ของประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราและบุคคลภายนอก เราจะสร้างความสมดุลระหว่างประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเราและประโยชน์ของท่าน สิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (4) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ (5) ฐานประโยชน์สาธารณะ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อการใช้อำนาจรัฐ (6) เพื่อการก่อตั้งและยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายในอนาคต หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาต แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริบทของความสัมพันธ์ที่มีกับเรา เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้:
เมื่อเราจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด หรือเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่มีกับท่าน แต่ท่านไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นแก่เรา เราอาจไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาที่เรามีหรือจะเข้าทำกับท่านได้ กล่าวคือ เราอาจไม่สามารถมอบผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่านได้
ในกรณีที่ความยินยอมนั้นจำเป็นสำหรับกิจกรรมการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราจะขอความยินยอมจากท่านเพื่อดำเนินกิจกรรมดังกล่าวแยกต่างหาก
4.1. บริษัทในเครือของเกษร กรุ๊ป
เนื่องจาก บริษัท เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทในเครือของเกษร กรุ๊ป ซึ่งทำงานร่วมกัน และแบ่งปันบริการลูกค้าและระบบต่าง ๆ แก่กันบางส่วน เราจึงอาจจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรืออนุญาตให้บริษัทอื่น ๆ ในเครือของเกษร กรุ๊ป รวมถึงบริษัทลูก และพันธมิตรทางธุรกิจ เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ เพื่อวัตถุประสงค์ดังที่กำหนดไว้ข้างต้น
4.2. ผู้ให้บริการของเรา
เราอาจใช้บริษัท ตัวแทน หรือผู้รับจ้างอื่นในการให้บริการในนามของเรา หรือในการช่วยเหลือเราในการประกอบธุรกิจ เราอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ (1) ผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซอฟต์แวร์ และเว็บไซต์ และผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ (2) ผู้ให้บริการด้านคลังสินค้าและการขนส่ง (3) สถาบันการเงินและผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน (4) ผู้บูรณะซ่อมแซมตึก (5) บริษัทด้านการตลาด สื่อโฆษณา และการสื่อสาร (6) ผู้อำนวยความสะดวกหรือศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (7) ผู้จัดแคมเปญและงานอีเวนต์ (8) ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมและการสื่อสาร (9) ตัวแทนและผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน ระบบการชำระเงิน การยืนยัน และการอ่านบัตร (Dip Chip) (10) ผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการจากภายนอก (11) ผู้ให้บริการเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์ (12) ผู้ให้บริการการยืนยันและตรวจสอบข้อมูล (13) ผู้บริหารจัดการและอำนวยการ (Dispatchers) (14) ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ (15) บริษัทประกันภัย และ/หรือ (16) ผู้ให้บริการด้านการบริหารความเสี่ยง
ในการให้บริการดังกล่าว ผู้ให้บริการอาจสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ อย่างไรก็ตาม เราจะให้ข้อมูลแก่ผู้ให้บริการของเราเฉพาะเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการให้บริการเท่านั้น และเราจะขอให้ผู้ให้บริการเหล่านั้นไม่ใช้ข้อมูลของท่านไปเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เราจะทำให้มั่นใจว่าผู้ให้บริการของเราทุกรายที่เราทำงานด้วยจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มั่นคงปลอดภัย
4.3. พันธมิตรทางธุรกิจของเรา
เราอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังพันธมิตรทางธุรกิจของเราในระหว่างขั้นตอนการลงนามในสัญญา และ/หรือ การว่าจ้างบริการ เฉพาะกรณีที่พันธมิตรทางธุรกิจที่รับโอนข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตกลงที่จะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะที่สอดคล้องกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
4.4. บุคคลภายนอกซึ่งมีอำนาจตามกฎหมาย
ในบางกรณี เราอาจจำเป็นต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ทางกฎหมาย ซึ่งรวมถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานกำกับดูแล เจ้าหน้าที่รัฐ หรือบุคคลภายนอกอื่นที่เราเชื่อว่าจำเป็นต้องปฏิบัติตามหน้าที่ทางกฎหมาย หรือเพื่อปกป้องสิทธิของเรา สิทธิของบุคคลภายนอกใด ๆ หรือความปลอดภัยส่วนบุคคลของบุคคลใด หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือจัดการโดยประการอื่นใดกับปัญหาเรื่องการฉ้อโกง ความมั่นคงปลอดภัย หรือความปลอดภัย
4.5. ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญรวมถึง ทนายความ เจ้าหน้าที่ทางเทคนิค และผู้สอบบัญชี ซึ่งช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจของเรา และต่อสู้หรือฟ้องร้องคดีความใด ๆ
4.6. สมาคมและองค์กรต่าง ๆ
เราอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่สมาคมที่เป็นสมาชิกอื่น ๆ เช่น สมาคมการค้าผู้ให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ไทย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สมาคมสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย สมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมศูนย์การค้าไทย สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ และ/หรือ กลุ่มแยกราชประสงค์
4.7. ผู้รับโอนสิทธิและ/หรือหน้าที่
เราอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวม การขาย การซื้อ กิจการร่วมค้า การโอน การจัดให้ หรือการจำหน่ายโดยวิธีการอื่นซึ่งธุรกิจ สินทรัพย์ หรือหุ้นของเราไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หากกรณีดังกล่าวใดเกิดขึ้น ผู้รับโอนสิทธิของเราจะปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เพื่อเคารพต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัท อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกหรือเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งประเทศปลายทางนั้นอาจมีหรือไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระดับเดียวกัน เราดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการเพื่อทำให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกโอนอย่างมั่นคงปลอดภัย และผู้รับข้อมูลมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และการโอนนั้นเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายภายใต้กฎหมายที่ใช้บังคับ
บริษัท เก็บรักษาข้อมูลไว้บนระบบคลาวด์ของ Salesforce ซึ่งเป็นระบบที่ได้มาตรฐาน มีความมั่นคงปลอดภัยสูง ได้รับการยอมรับเป็นการทั่วไป และ Salesforce มีศูนย์ข้อมูล (Data Centers) อยู่ทั่วโลก เราใช้ศูนย์ข้อมูล (Data Centers) ในสิงคโปร์เป็นเซิร์ฟเวอร์หลัก (Server Base) โดยมีเซิร์ฟเวอร์สำรองอยู่ที่ฮ่องกง สิงคโปร์มีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีชื่อเรียกว่ารัฐบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ค.ศ. 2012 ( Personal Data Protection Act 2012) และฮ่องกงมีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีชื่อเรียกว่ากฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลแห่งฮ่องกง (Personal Data Ordinance, Laws of Hong Kong)
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นตามสมควรเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่เราได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมา และเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายของเรา อย่างไรก็ดี เราอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นเวลานานกว่านั้น ตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด เมื่อพ้นระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นแล้ว เราอาจลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือเปลี่ยนให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ ตามแต่สมควร
เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ บริษัท ได้จัดให้มี และ/หรือ เลือกใช้ระบบเพื่อเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบเอกสาร ไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ และ/หรือรูปแบบอื่นใด ที่มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม รวมถึงมาตรการเชิงองค์กร มาตรการด้านเทคนิค และมาตรการทางกายภาพ ซึ่ง ครอบคลุมองค์ประกอบต่าง ๆ ของระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงการดำเนินการเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่กำหนดโดยกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรักษาไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และสภาพพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมตามระดับของความเสี่ยง กรณีนี้รวมถึงการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและองค์ประกอบของระบบสารสนเทศที่สำคัญ การจัดการกับการเข้าถึงของผู้ใช้งานอย่างเหมาะสม การกำหนดความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน การจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมสำหรับการบันทึกกิจกรรมเพื่อตรวจจับการเข้าถึง การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการลบข้อมูลส่วนบุคคล เรายังจัดให้มีการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการคุ้มครองและความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับบุคลากรที่เกี่ยวข้อง
ภายใต้ข้อกำหนดและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ ท่านอาจมีสิทธิดังต่อไปนี้ และบริษัทจะตอบกลับโดยไม่ชักช้า:
8.1. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent) – สำหรับวัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับเราในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมได้ ไม่ว่าเมื่อใด
8.2. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล (Right to Access) – ท่านอาจมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยการขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลจาก บริษัท และส่งคำขอให้ บริษัท เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งท่านไม่ได้ให้ความยินยอมแก่เรา
8.3. สิทธิในการแก้ไขข้อมูล (Right to Rectification) – หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน ท่านอาจมีสิทธิที่จะขอให้ บริษัท ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้องหรือสมบูรณ์
8.4. สิทธิในการลบข้อมูล (Right to Erasure) – ท่านอาจมีสิทธิที่จะขอให้ บริษัท ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่เราไม่มีหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการดังกล่าวหากเราจำเป็นที่จะต้องเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ทางกฎหมาย หรือเพื่อก่อตั้ง ใช้ หรือยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ซึ่งการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบางครั้งอาจทำให้เราไม่สามารถให้บริการกับท่านได้อีกต่อไป
8.5. สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restriction): ท่านอาจมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้
8.6. สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Data Portability): ท่านอาจมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับเราไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น หรือตัวท่านเอง
8.7. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object): ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เมื่อท่านทำการยกเลิกในกรณีดังต่อไปนี้
8.8. สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint): ท่านอาจมีสิทธิในการร้องเรียนต่อหน่วยงานที่มีอำนาจหากท่านเชื่อว่าการที่เราประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่ใช้บังคับ
ท่านสามารถใช้สิทธิถอนความยินยอมหรือสิทธิในการคัดค้าน โดยทำการติดต่อเราผ่านทางหน้าเคาน์เตอร์ของเรา หรือโดยใช้ข้อมูลติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 12 ด้านล่าง
ผลิตภัณฑ์และบริการของเราอาจมีลิงก์ที่เชื่อมไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะใช้บังคับกับผลิตภัณฑ์และบริการของเราเท่านั้น หากท่านเข้าถึงและใช้เว็บไซต์ที่ถูกเชื่อมต่อดังกล่าวไปยังผลิตภัณฑ์และบริการอื่น เราแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกดังกล่าวก่อนเป็นอันดับแรก
บริษัท อาจแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว หากสามารถทำได้ เราจะแจ้งให้ท่านทราบด้วยวิธีการที่เราเห็นว่าเหมาะสมหากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ในสาระสำคัญ เราแนะนำให้ท่านกลับมาอ่านทบทวนหรือติดตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นระยะเพื่อทราบถึงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ
นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้รับการปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 05 November 2024.
หากท่านมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ข้อมูลของท่านที่ถูกเก็บโดย บริษัท หรือต้องการที่จะใช้สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อ บริษัท หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทที่
ชื่อ: เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO)
ที่อยู่: 999 ชั้น 4 เกษรเซ็นเตอร์ ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 ประเทศไทย
ที่อยู่อีเมล: dpo@gaysorngroup.com
หมายเลขโทรศัพท์: 02-656-1149