อาหารญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการกินที่โด่งดังไปทั่วโลก ด้วยการนำเสนอบรรยากาศอันน่าหลงไหลของญี่ปุ่นประกอบกับบรรยากาศสุดประทับใจ จึงไม่แปลกใจที่จะได้รับนิยมจากคนหลากหลายเชื้อชาติ เมื่อเราพูดถึง “ร้านอิซากายะ” ทำให้นึกถึงการกินอย่างมีศิลปะ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้สัมผัส บ่งบอกตัวตนของแดนอาทิตย์อุทัยผู้ขึ้นชื่อในวัฒนธรรมการกิน
แล้วร้านอิซากายะนั้นต่างจากอาหารญี่ปุ่นทั่วไปอย่างไร? ทำไมถึงได้รับความนิยมไปหลายประเทศ หากคุณต้องการเปิดประสบการณ์อาหารและการดื่มแบบญี่ปุ่นที่ไม่เหมือนใคร บทความนี้จะคุณพาไปทำความรู้จักกัน
ร้านอิซากายะ คืออะไร?
‘ร้านอิซากายะ’ คือ ร้านกึ่งบาร์หรือผับแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น มักจะประกอบด้วยอาหารจานเล็กหลากหลายอย่าง ทานพร้อมเครื่องดื่มพื้นบ้านสาเก โชจู และเบียร์ญี่ปุ่นที่เข้ากันได้ดี จุดเด่นของร้านอิซากายะจะเป็นลักษณะการดื่มกินร่วมกันในบรรยากาศกันเอง ทำให้ผู้คนได้ปลดปล่อยจากความเครียดและสร้างความทรงจำดีๆ กับเพื่อนและครอบครัว อาจจะมีการเล่นดนตรีสดหรือภาพยนตร์พร้อมร้านที่ตกแต่งแบบญี่ปุ่น
จุดเริ่มต้นย้อนกลับไปในสมัยเอโดะ (ปี 1603–1868) คำว่า “อิซากายะ” มาจากการผสมคำสองคำ คือ “อิ” (居) แปลว่า “นั่ง” และ “ซากายะ” (酒屋) ซึ่งหมายถึง “ร้านเหล้า” ที่เดิมที่มีไว้สำหรับซื้อสาเกกลับไปดื่มที่บ้านเท่านั้นแต่ผู้คนเริ่มนิยมดื่มสาเกในร้านเหล้าโดยตรง ทำให้ร้านขายสาเกบางร้านปรับตัวโดยจัดพื้นที่ให้นั่งดื่มภายในร้าน
ต่อมาในช่วงยุคโชวะ (ปี 1926–1989) อิซากายะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มพนักงานออฟฟิศหรือที่เรียกว่า “ซาลารี่แมน” ที่มักจะมาสังสรรค์และผ่อนคลายหลังเลิกงาน
ความแตกต่างระหว่างร้านอิซากายะและร้านอาหารญี่ปุ่น
แม้ทั้งสองร้านจะเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่ก็แตกต่างกันในเรื่องของบริการ ประสบการณ์ลูกค้า และวัตถุประสงค์ในการมาใช้บริการ และอื่นๆอย่างสิ้นเชิง มาดูกันว่าความแตกต่างนั้นคืออะไรบ้าง
-
บรรยากาศ
อิซากายะมีบรรยากาศสบายๆ เหมาะกับการสังสรรค์และดื่มหลังเลิกงาน ต่างจากร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปที่เน้นบรรยากาศสงบ เหมาะกับการทานอาหารเป็นมื้อหลัก -
จุดประสงค์
ร้านอิซากายะคือการพบปะและการดื่ม พร้อมกับอาหารทานเล่นและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของญี่ปุ่น ส่วนร้านอาหารทั่วไปเน้นการบริการอาหารแบบครบชุดสำหรับทานจานหลัก -
เมนูและการเสิร์ฟ
เมนูในอิซากายะเป็นอาหารจานเล็กสำหรับแชร์กันระหว่างกลุ่ม บางร้านก็นิยมสั่งจากของเบาๆ แล้วค่อยสั่งของหนัก บางร้านก็จำกัดเวลา ส่วนร้านอาหารญี่ปุ่นจะมีอาหารจานหลักแบบจัดเต็มในหนึ่งชุด ทานแบบไหนก็ได้และไม่จำกัดเวลา (ยกเว้นอาหารแบบบุฟเฟ่ต์) -
เครื่องดื่ม
อิซากายะเน้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น สาเกและเบียร์แบบญี่ปุ่น ซึ่งต่างจากร้านอาหารทั่วไปที่มีแอลกอฮอล์แต่ไม่ได้เน้นในการดื่มแบบกิจจะลักษณะ -
ช่วงเวลาให้บริการ
อิซากายะมักเปิดช่วงเย็นถึงดึก เพื่อรองรับลูกค้าหลังเลิกงาน ส่วนร้านญี่ปุ่นทั่วไปเปิดทั้งกลางวันและเย็น
โอโทชิ (Otoshi お通し) อาหารเรียกน้ำย่อยที่ถูกเสิร์ฟถึงแม้เราจะไม่ได้สั่ง
ด้วยบรรยากาศเฉพาะตัวของร้านอิซากายะจะมีอาหารเรียกน้ำย่อยที่ถูกเสิร์ฟก่อนอาหารจานหลัก แม้ไม่ได้สั่งก็ตาม เรียกว่า โอโทชิ (Otoshi) ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของญี่ปุ่น คือเมื่อลูกค้านั่งโต๊ะ พนักงานจะเสิร์ฟโอโทชิให้ทันที โดยมักจะเป็นอาหารจานเล็ก ๆ เช่น สลัด ผักดอง หรือเมนูง่าย ๆ ที่กินคู่กับเครื่องดื่มได้ดี
โอโทชิไม่ใช่อาหารฟรี เพราะจะรวมอยู่ในค่าบริการหรือค่าโต๊ะ เป็นการสื่อถึงการต้อนรับและให้ลูกค้าได้ทานรองท้องขณะรออาหารจานหลัก โอโทชิยังช่วยสร้างบรรยากาศในการดื่มกินในร้านอิซากายะ ทำให้เป็นเสน่ห์เฉพาะที่สะท้อนวัฒนธรรมการกินดื่มแบบญี่ปุ่น
Nomikai (飲み会) กับร้านอิซากายะ
เพราะการทำงานหนักของชาวญี่ปุ่น จึงทำให้ชื่นชอบการดื่มสังสรรค์เป็นชีวิตจิตใจ เกิดเป็นวัฒนธรรมที่เรียกว่า ‘การดื่มเลี้ยง’ (Nomikai ; 飲み会) ซึ่งช่วยทำให้พวกเขาผ่อนคลาย Nomikai และอิซากายะจึงเป็นสองสิ่งที่เสริมกันได้ดี โดย Nomikai ใช้ร้านอิซากายะเป็นสถานที่สร้างความสัมพันธ์นอกเหนือจากหน้าที่การงาน ขณะเดียวกันก็แสดงถึงเอกลักษณ์การกินดื่มในสังคมญี่ปุ่น
เมนูห้ามพลาด! อาหารยอดนิยมที่ต้องทานในร้านอิซากายะ (Izakaya)
ร้านอิซากายะมักจะมีเมนูพื้นฐานที่มักจะมีทุก ๆ ร้าน ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูทานเล่นที่เหมาะกับการแบ่งปัน และมีรสชาติเข้มข้นเข้ากับเครื่องดื่มแต่ละชนิดได้อย่างดี มาดูกันว่าเมนูยอดฮิตที่เมื่อเราไปเยือนร้านอิซากายะสักครั้งจะมีอะไรบ้าง จดเอาไว้รับรองว่าจะไม่พลาดของอร่อยแน่นอน !
-
ยากิโทริ (Yakitori)
ไก่เสียบไม้ย่างรสเด็ดที่มีทั้งแบบธรรมดาและรสชาติต่างๆ ใช้ส่วนต่างๆ ย่างด้วยไฟหอมๆ รับประทานคู่เกลือ พริกไทย หรือมายองเนส -
เอฮิเระ (Ehire)
ครีบปลากระเบนย่าง เนื้อสัมผัสหนึบเคี้ยวมัน มักจะทานคู่กับสาเก -
ทาโกะวาซาบิ (Tako Wasabi)
หมึกสดหั่นเต๋า จิ้มวาซาบิ รสชาติเผ็ดซ่า ถือเป็นเมนูเรียกน้ำย่อย -
เอดามาเมะ (Edamame)
หรือถั่วแระญี่ปุ่น มีลักษณะถั่วเหลืองต้ม ร้อนๆ กลิ่นหอม -
เกี๊ยวซ่า (Gyoza)
มักเป็นเกี๊ยวทอดหรือเกี๊ยวน้ำ ไส้หมูหรือผัก จิ้มกับซอสชื่อดังของอิซากายะ -
โอเด้ง (Oden)
อาหารต้มรวมมิตร มีทั้งลูกชิ้นปลา เต้าหู้ ไข่ ทานเพื่อให้รู้สึกคล่องคอ -
ยากิโซบะ (Yakisoba)
บะหมี่ผัดญี่ปุ่น รสชาติกลมกล่อมที่มาพร้อมกับเส้นเหนียวนุ่ม เนื้อสัตว์ต่างๆ และไข่ พร้อมด้วยซอสรสชาติเฉพาะตัว มีสาหร่ายและปลาหมึกแห้งโรยหน้า -
เทมปุระ (Tempura)
อาหารที่ชุบแป้งทอด มีทั้งกุ้ง ผัก ทานพร้อมเกลือ พริกไทยหรือซอสเทมปุระ -
ไข่ม้วนซุปดาชิ (Dashi Tamagoyaki)
ไข่ม้วนสไตล์ญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมซุปดาชิให้ทานพร้อมกัน -
เครื่องดื่ม
เบียร์ สาเก ชูไฮ (เครื่องดื่มผสมโซดาและเหล้า) และอุเมะชู (เหล้าพลัมญี่ปุ่น)
นอกจากเมนูขึ้นชื่อแสนอร่อยยังมีมากมายที่ยังไม่ได้กล่าวถึง เช่น ข้าวหน้าต่าง ๆ ซาชิมิหรือเมนูเฉพาะร้านนั้นๆ จะเห็นได้ชัดว่าอาหารญี่ปุ่นค่อนข้างเป็นที่นิยม ทั้งยังทำให้ผู้คนหลงไหลไปกับวัฒนธรรมการกินอันเป็นเอกลักษณ์ควบคู่กับอาหารของแดนอาทิตย์อุทัย
ทำให้ความอร่อยพร้อมบรรยากาศที่ผ่อนคลายถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในสายตาชาวโลก ‘ร้านอิซากายะ’ คือ ร้านอาหารที่สะท้อนถึงดั้งเดิมวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นออกมา ผ่านเมนูอาหาร และเครื่องดื่ม ร้านเหล่านี้จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการสังสรรค์หลังเลิกงาน
สัมผัสเสน่ห์ร้านอิซากายะ ที่ Fatboy Izakaya สาขา Gaysorn
และหากใครกำลังมองหาร้านอิซากายะอร่อยๆในกรุงเทพฯ ที่ผสมผสานด้วยการออกแบบสไตล์โมเดิร์นกับญี่ปุ่น ร้าน Fatboy izakaya ตอบโจทย์เหล่านั้นได้อย่างดี
การฟิวชั่นเมนูอาหารนานาชาติรวมกับอาหารญี่ปุ่นเปิดประสบการณ์การทานที่น่าเพลิดเพลิน มีโซนบาร์ที่มีแอลกอฮอล์ให้ได้ดื่มสังสรรค์ตามสไตล์อิซากายะ เดินทางง่ายๆเพียงลงสถานี bts ชิดลมและตรงมายัง Gaysorn Amarin ชั้น 3 Fatboy Izakaya จะพาเราไปสัมผัสกับความอร่อยแบบฉบับญี่ปุ่นได้แน่นอน !